การทำน้ำหมักเอนไซม์จากเปลือกสับปะรด สำหรับใช้อุปโภค ใช้ภายนอกร่างกาย ไม่นำมารับประทาน โดยการใช้ล้างจาน ทำความสะอาดบ้าน ขัดห้องน้ำ เทส้วม ดับกลิ่น เป็นปุ่ยสำหรับพืช เป็นต้น วิธีทำ ส่วนประกอบ มีดังนี้ 1. เปลือกสับปะรด 5 กิโลกรัม 2. น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม 3. น้ำสะอาด 10 ลิตร 4. EM จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ 1 ลิตร ให้นำ เปลือกสับปะรด หั่นหรือสับเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ลงในถังหมัก แล้วเติมน้ำตาลทรายแดงลงไป แล้วเติมน้ำลงไปให้ท่วม ปิดฝา ถังให้สนิท ตั้งไว้ในที่ร่มไม่โดยแดด นาน 30 วัน แล้วนำมาใช้ได้ หรือถ้าจะให้ได้คุณภาพดี ประมาณไม่ต่ำกว่า 3 เดือน (เหตุผล หากต่ำกว่า 3 เดือน จะมีกลิ่นแรง) ประโยชน์ของน้ำหมักเอนไซม์จากเปลือกสับปะรด 1. น้ำหมักเอนไซม์จากเปลือกสับปะรด อายุ 3 เดือนขึ้นไป ผสมกับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1: 50 เทลงในท่อระบายน้ำ ช่วยดับ กลิ่นเหม็นได้ 2. น้ำหมักเอนไซม์จากเปลือกสับปะรด อายุ 3 เดือนขึ้นไป ผสมน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1: 50 ใช้ล้างภาชนะที่มีคราบไขมัน ช่วยให้ ล้างง่ายขึ้น และลดปริมาณการใช้น้ำยาทำความสะอาด 3. น้ำหมักเอนไซม์จากเปลือกสับปะรด อายุ 30 วัน ขึ้นไป ใช้เทลงในโถส้วม ท่อระบายน้ำ ผสมน้ำในอัตราส่วน 1: 50 ใช้ล้างทำความสะอาดพื้นห้องสุขา ลดกลิ่นเหม็นและฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายได้ 4.
เปลือกสับปะรดค่อนข้างฉ่ำจำนวน 3 ส่วน 2. กากน้ำตาล 3 ส่วน 3. น้ำมะพร้าว 1 ส่วน 4. ถังขนาด 10-15 ลิตร 1 ใบ ขั้นตอนการทำน้ำหมักเปลือกสับปะรด นำเปลือกสับปะรดมาสับให้ละเอียด เนื้อที่เกือบเน่าหรือเนื้อดีใส่รวมเข้ากันก็ได้ จำนวน 3 ส่วน เช่น 30 กิโลกรัม นำกากน้ำตาล 1 ส่วน(10 กก. ) ใส่ลงในน้ำมะพร้าว 1 ส่วน(10 กก. )คนให้เข้ากันแล้วเทลงในสับปะรด คนให้เข้ากันหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน คนทุกวัน ถ้าเห็นว่า เปลือกสับปะรดจมหมดแล้วถือว่าใช้ได้ จากนั้นนำมากรองด้วยผ้าขาว จะได้ น้ำหมักหัวเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติ ( ถังหมักควรใช้ถังพลาสติก) ++ การนำไปใช้ ++ 1. นำน้ำหมักเชื้อจุลินทรีย์ 1 ลิตร ส่วนต่อ 20 ลิตร >> ใช้กับไม้ผล 2. นำน้ำหมักเชื้อจุลินทรีย์ 1 ลิตร ส่วนต่อ 30 ลิตร >> ใช้กับไม้ดอก ทั้ง 2 สูตร **ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปราดบริเวณโคนต้นไม้ทั่วทรงพุ่มหรือฉีดพ่นใบ ใช้ สัปดาห์ละครั้ง ++ ประโยชน์ที่ได้รับ ++ 1. เวลาหมักแล้วจะเกิดจุลินทรีย์เมื่อนำไปราดที่วัชพืชจุลินทรีย์จะกินวัชพืชและจุลินทรีย์จะขับถ่ายของเสียออกมาที่เราเรียกว่าปุ๋ยหรือการย่อยสลาย จะทำให้ดินมีสภาพดีขึ้นด้วย 2. ลดต้นทุนการผลิต(ปุ๋ย) 3. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สภาพดินอุดมสมบูรณ์ ไร้สารพิษ ไม่มีสารเคมีตกค้างในผลไม้ และ ดิน เกร็ดความรู้ ทำไมถึงต้องใช้สับปะรด?
63. As for the lowest satisfaction level, which was related to the reduction of drain clogs, was at a moderate level with an average score of 3. 16. Keywords: Bio Extract, Fermentation, Drainodor. น้ำหมักผลไม้ชีวภาพ | Tropical Fruit Bio Extract Faculty of Liberal Arts, Siam University, Bangkok, Thailand Related by Advisor สบู่เหลวสับปะรดและเสาวรส สติ๊กเกอร์ไลน์ทรัพยากรบุคคล มาการองมะพร้าว ป้ายแจ้งเตือนลูกค้า เครปเค้กซอสเลม่อนอัญชัน โยเกิร์ตอโวคาโดฮันนี่ มัฟฟินสูตรคลีนเพื่อสุขภาพ เทียนหอมกากกาแฟ
น้ำหมักชีวภาพผสมน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1: 50 ให้ฉีดพ่นบริเวณที่มีกลิ่นอับชื้น ช่วยลดกลิ่นเหม็นอับ และทำให้อากาศสดชื่นหรือใช้ถูพื้นอาคารที่เป็นกระเบื้อง หินขัด ทำให้พื้นสะอาดเป็นเงางาม 6. น้ำหมักชีวภาพเทลงในถังเกรอะ หรือโถส้วม ช่วยลดปัญหาส้วมเต็มกลิ่นเหม็นอืดได้ 7. กากที่เหลือจากการหมักนำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพได้ โดยนำไปผสมกับเศษกิ่งไม้ ใบไม้ เศษหญ้า ปุ๋ยคอก แล้วราดด้วยน้ำหมักชีวภาพ คลุกเคล้าให้เข้ากัน คลุมด้วยผ้าพลาสติกทิ้งไว้ ประมาณ 3-4 สัปดาห์ ก็จะย่อยสลายเปื่อยยุ่ย นำไปใช้ได้
ตอบ ในส่วนตาสับปะรด จะมีจุลินทรีย์ชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์มาก จึงนำมาหมักเพื่อผลิตเชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้ในการเกษตรได้เป็นอย่างดี เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับบทความ "น้ำหมักเปลือกสับปะรดบำรุงดิน เพิ่มผลผลิต " หากเกษตรกรท่านใดคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ แอดมินเว็บไซต์เกษตรฮอตนิวส์ สาระความรู้ด้านการเกษตร ฝากทุกท่านแชร์บทความต่อด้วยนะครับ การแบ่งปันความรู้เป็นสิ่งที่ดีครับ บทความเขียนและเรียบเรียงโดย - แอดมินเว็บไซต์เกษตรฮอตนิวส์ สาระความรู้ด้านการเกษตร - ข้อมูลจาก: คุณจรูญ มาแก้ว. ประธานกรรมการศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านในไร่ Create: 2018-11-19 11:05:26 Modify: 0000-00-00 00:00:00 Read: 18112URL: ้ำหมักเปลือกสับปะรดบำรุงดิน-เพิ่มผลผลิต/